วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

50 คำคม


สวัสดีค่ะเพื่อนๆที่รักทุกคน วันนี้กิ๊ฟก็มี 50 คำคมมาฝากเพื่อนๆกันนะคะ

1.คาดหวังให้สูงเข้าไว้และแน่นอนว่าต้องเตรียมใจที่จะพบกับความผิดหวังด้วย
2.ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
3.ถ้าเชื่อว่าไม่แพ้ เราก็จะไม่แพ้
4.คนเข้มแข็งเท่านั้นที่จะอยู่บนโลกใบนี้ได้
5.อุปสรรคล้วนเป็นยาขม ไม่มีใครอยากลิ้มลอง แต่ขึ้นชื่อว่ายาขม ส่วนใหญ่มักเป็นยาดีเสมอ
6.ขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้ความสุขในคราวต่อมาเป็นความสุขที่แท้จริง
7.เพื่ออะไรกับการรอคอยที่ไม่มีความหมาย
8.ยิ่งบทเรียนยากขึ้นเท่าไหร่ ถ้าเราผ่านมันไปได้เราก็จะยิ่งเก่งขึ้นเท่านั้น
9.กุหลาบไร้หนามมีเพียงมิตรภาพเท่านั้น
10.อย่ากังวลกับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง แต่ให้คำนึงถึงสิ่งที่กำลังทำ
11.แม้แต่นิ้วของคนเรายังยาวไม่เท่ากัน นับประสาอะไรกับความยั่งยืนของชีวิต
12.โลกใบนี้เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ถ้าไม่ออกเดินทางก็ไม่มีวันค้นพบ
13.ไม่มีใครสะดุดภูเขาล้ม มีแต่สะดุดก้อนหินล้ม
14.ไม่มีใครเข้มแข็งตลอดไปและไม่มีใครอ่อนแอตลอดกาล
15.บางครั้งเราก็เหมือนคนตาบอดมีวิธีเดียวที่จะพาเรามุ่งหน้าไปได้คือการคลำทางเดินหน้าต่อไป
16.อย่าเกลียดน้ำตาเพราะมันคือเพื่อนแท้ อย่าเกลียดความอ่อนแอเพียงเพราะมันไม่ใช่ความเข้มแข็ง
17.มีเพียงชีวิตที่ทำเพื่อคนอื่นเท่านั้นที่ควรค่าแก่การมีชีวิต
18.ทุกอย่างมีค่าเสมอ อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าไม่ควรจะทำมันอีก
19.คนฉลาดย่อมไม่นำแต่ตาม ย่อมไม่พูดแต่ฟัง
20.ทุกคนได้ยินในสิ่งที่คุณพูด ต่เพื่อนที่ดีที่สุดจะได้ยินแม้ในสิ่งที่คุณไม่ได้พูด
21.อวดโง่ดีกว่าอวดฉลาด
22.คนที่ว่าคนอื่นโง่ บุคคลนั้นโง่ยิ่งกว่า คนที่ว่าคนอื่นฉลาด บุคคลนั้นคือผู้ฉลาดอย่างแท้จริง
23.ฝันได้แต่อย่าหวัง
24.เรียนรู้ที่จะแพ้อย่างผู้ชนะ แล้วจะรู้จักกับคำว่าชัยชนะที่แท้จริง
25.นักปราชญ์ควรรู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุด
26.ความยึดถือคือความเจ็บปวด
27.พระเจ้าไม่ได้รักเรามากกว่าคนอื่น และไม่ได้รักคนอื่นมากกว่าเรา
28.อุปสรรคคือแบบทดสอบของชีวิต
29.ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต
30.สิ่งร้ายๆจะมาพร้อมกับสิ่งดีๆเสมอ
31.โลกใบนี้ยังมีมุมดีๆให้มอง
32.ตัวเรายังไม่ได้ดั่งใจเรา แล้วคนอื่นจะเป็นได้อย่างไร
33.ถนนบางสายไกลหน่อยแต่ก็ยังมีวันถึง
34.แต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง แต่งใจด้วยความดี
35.ความเจ็บปวดทำให้หัวใจแข็งแกร่ง
36.เดินคนเดียวอาจไม่รู้สึกดีอะไร แต่อย่างน้อยก็มีที่แกว่งแขนมากขึ้น
37.ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วทำวันพรุ่งนี้ให้ดีกว่าเดิม
38.ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เพราะทุกปัญหาแก้ไขได้
39.ถ้าไม่ลองก้าวจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองวิ่งได้
40.ตึกสูงระฟ้ามาจากก้อนอิฐ
41.ใช้ชีวิตอยู่กับความจริง ยอมรับสิ่งที่เป็น มองเห็นข้อดีคนอื่น หยัดยืนด้วยขาตัวเอง
42.เราจะรู้รสชาติของความสุขก็ต่อเมื่อเราผ่านความทุกข์มาก่อน
43.ปัญหามีไว้แก้ และต้องแก้ด้วยตัวเองไม่ใช่ยืมมือคนอื่นมาแก้
44.จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์คือความเชื่อใจ
45.ทุกคนมีคุณค่าเพียงแต่มีโอกาสแสดงคุณค่าไม่เท่ากัน
46.บางทีการได้เจอปัญหามันก็ดีเหมือนกัน
47.สิ่งที่ผ่านมาแล้วจะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีก
48.ไม่ว่าใครจะตายหรือหายไป สุดท้ายโลกก็ยังหมุนต่ออยู่ดี
49.น้ำตาให้ได้แค่ความเห็นใจ
50.ในการที่จะเริ่มต้นทำสิ่งใดทุกครั้งควรคิดถึงจุดจบด้วย

ที่มา : www.Dek-D.com

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กลเม็ดอัพสมอง

กิ๊ฟท์ เอาบทความดีๆมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ ลองทำดูนะ สมองจะได้บิ้งบิ้ง


เพราะวัยรุ่นอย่างน้องๆ ทั้งหลายต้องใช้สมองในการเรียนหนังสือ แม้แต่วัยผู้ใหญ่ก็ต้องใช้สมองในการทำงาน ซึ่งสมองเวลาใช้งานหนักๆ เข้ามันก็เหนื่อยก็ล้า และอาจจะหลงลืมอะไร ความจำก็ไม่ดีเหมือนตอนเป็นเด็ก ดังนั้นเราจึงได้รวบรวมเคล็ดลับที่ทำให้สมองแล่นปรู๊ดปร๊าดมาฝาก รับรองเลยว่าถ้าทำตั้งแต่วันนี้ ในอนาคตข้างหน้าคุณจะไม่เฉียดกรายโรคอัลไซเมอร์แน่นอนค่ะ

1. หากอยากจะจดจำให้แม่น การงีบนอนให้หลับ โดยเฉพาะเวลากลางวันนาน 90 นาที จะได้ผลดีที่สุด
2. สมองประกอบด้วยน้ำ 85% เซลลสมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เซลล์สมองเหี่ยวซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึง ควรดื่มน้ำบ่อย
3. นั่งสมาธิวันละ 12 นาที หลังจากตื่นนอนแล้วให้ตั้งสติและ นั่งสมาธิทุกเช้าวันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายสุดๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการเห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ถ้าหากทำไม่ได้ในตอนเช้าก็ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน
4. ใส่ความตั้งใจ การตั้งใจในสิ่งใดก็ตามเหมือนเป็นการตั้งโปรแกรมสมองว่า นี่คือสิ่งที่ต้องเกิดระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่างๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน
5. ทุกครั้งที่ ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุขหลั่งออกมา เท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ

6. เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟินและโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และสร้างสรรค์ไปเรื่อยๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์
7. ลับสมองด้วยการเล่นสแคร็บเบิ้ล หรือเล่นคิวบิกทุกวัน
8. ขณะที่เราไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเองเป็นการลดภาระของสมอง
9. เขียนขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดีๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์
10. สมองใช้ออกซิเจน 20-25% ของออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึกๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนานๆ อาจหาเวลาเย็น หรือเดินยืดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20%

ข้อมูลจาก : http://www.womaninfocus.com/knowledge-044.htm

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทำไงดีใส่แผ่นซีดี เข้าไปแล้ว ไดร์ซีดีรอม อ่านช้ามาก?

ทำไงดีใส่แผ่นซีดี เข้าไปแล้ว ไดร์ซีดีรอม อ่านช้ามาก?
ควรตรวจสอบดูว่า ไดร์ซีดีรอมนั้น กับฮาร์ดดิสก์ของคุณได้ต่อสาย IDE อยู่ในเส้นเดียวกันหรือเปล่า เพราะการต่อแบบนี้ จะทำให้การโอนถ่าายข้อมูลนั้น มีการโอนถ่ายที่ช้าลงไป เพราะฉนั้นถ้าต่ออยู่เส้นเดี๋ยวกันก็เปลี่ยนซะ เอาไดร์ฟซีดีรอม ไปเสียบในช่อง secondary ก็ได้
หรือในอีกกรณีหนึ่ง ถ้าคุณใช้ ไดร์ซีดีรอมแบบ DVD เวลาที่นำแผ่นซีดีแบบธรรมดาไปใช้ ก็จะพบว่าการอ่านแผ่นนั้น อ่านได้ช้ากว่าไดร์ซีดีรอมปกติ เพราะ DVD นั้นต้องทำการตรวจสอบก่อนว่าเป็นแผ่นซีดีแบบชนิดไหน จากนั้นจึงเริ่มอ่านข้อมูล ทำให้ เริ่มต้นการอ่านได้ช้า
นอกจากนี้ยังตรวจสอบได้อีกอย่างว่า เปิดฟีเจอร์ DMA ไว้หรือเปล่า ซึ่งบางคนอาจจะยังไม่รู้ ก็มีวิธีการเปิดดังนี้เลย
1. คลิ๊กขวาที่ My Computer แล้วเลือก Properties
2. คลิ๊กแท็ป Device Manager คลิ๊กเครื่องหมาย + ที่กลุ่มซีดีรอม
3. จากนั้นดับเบิ้ลคลิ๊ก ที่ไดร์ฟซีดีรอมที่ เราต้องจากจะ set กัน แล้วคลิ๊กที่แท๊ป setting
4. แล้วเช็กบล๊อกที่หน้าคำว่า DMA และ Sync Data Transfer เสร็จแล้วก็คลิ๊ก OK และทำการ รีสตาร์ท
** แต่ถ้าทำงาน set ค่า DMA แล้ว ซีดีรอมเกิดทำงานผิดปกติ ให้เซ็ตค่ากลับอย่างเดิม อาจเป็นเพราะไดร์ฟซีดีรอมรุ่นเก่า และไม่สนับสนุนการทำงานแบบ DMA.
ข้อมูลจาก : www.bcoms.net/tipcomputer/index.asp

โปรแกรมป้องกันไวรัสฟรี ดีจริงใหม ?

โปรแกรมป้องกันไวรัสฟรี ดีจริงใหม ?
มีคนถามมาบ่อยๆ ว่าโปรแกรมป้องกันไวรัสตัวไหนดี พอแนะนำไปก็จะคำถามย้อนกลับมาอีกว่า แล้วแบบที่ฟรีๆ น่ะ มีไหม (โอ้...อยากได้ฟรีและดี) เมื่อขอมา เราก็จัดให้ ใน Cover Story ฉบับนี้เราได้รวบรวมโปรแกรมป้องกันไวรัสฟรีๆ และไม่ฟรีมาฝากกัน
ในส่วนของโปรแกรมฟรีๆ คุณสามารถหาได้จากเว็บ www.download.com ซึ่งจะเป็นที่รวบรวมโปรแกรมทั้งฟรีและไม่ฟรีมาให้ได้ใช้กัน โดยในหมวดของโปรแกรมป้องกันไวรัสหาแบบรวมๆ ทีนี้เรามาดูว่ามีโปรแกรมอะไรน่าสนในบ้าง
ThreatFire AntiVirus Free Edition 3 http://www.threatfire.com/files/tfinstall.exeโปรแกรมน้องใหม่มาแรงจากค่าย PC Tools ที่กำลังได้รับความนิยมจากทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักทดสอบ ด้วยประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี สามารถตรวจจับไวรัส หนอนอินเทอร์เน็ต โทรจัน รูทคิต บัฟเฟอร์โอเวอร์โฟว์ สปายแวร์ แอดแวร์ และมับแวร์ได้โดยในโปรแกรมเวอร์ชันฟรีจะติดต่อกับทางผู้ผลิตในกรณีที่เกิดปัญหาผ่านทางอีเมล์เท่านั้น และไม่สามารถอัพเกรดเอนจิ้นของโปรแกรมได้หากจ่ายเงิน 14.95 เหรียญสหรัฐฯเพื่ออัพเกรดเวอร์ชันเป็น Pro คุณจะสามารถโทรคุยและแชตกับฝ่าย Technical Support ได้ รวมไปถึงการได้ฟังก์ชันการใช้งานขั้นสูงของโปรแกรม จะที่สำคัญหากเกิดจะใช้โปรแกรมนี้ก็คือ เครื่องคุณจะต้องแรงพอตัว เนื่องจากโปรแกรมค่อนข้างจะดึงเครื่องพอสมควร
PC Tools AntiVirus Free Edition http://www.pctools.com/free-antivirus/downloadจากการโหวตของเว็บไซต์ download.com โปรแกรมนี้น่าจะเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสฟรีที่น่าสนใจในตอนนี้ เพราะสามารถตรวจสอบไวรัสได้แบบเรียลไทม์ รวมไปถึงความสามารถในการสแกนไฟล์ อินเทอร์เน็ต อีเมล์ มีอินเทอร์เฟซการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก หากเพิ่มเงิน 29.95 เหรียญสหรัฐฯ คุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังได้รับระบบการอัพเดตข้อมูลไวรัสที่รวดเร็วมากขึ้น
Avira Antivir Personal Edition Classic http://www.avira.com/en/download/index.htmlโปรแกรมสัญลักษณ์ร่มแดงนี้แดงนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายและฟรี ซึ่งถูกใจหลายๆ คน รวมทั้งผมด้วย มีระบบการป้องกันไวรัสที่ดี อัพเดตต้อมูลไวรัส เอนจิ้น และข้อมูลโปรแกรมใหม่ๆแบบอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีการมอนิเตอร์ระบบแบบเรียลไทม์ ตั้งแต่ข้อมูลเริ่มเข้ามาในเครื่อง ใช้เทคโนโลยีการกำจัดไวรัสที่ทันสมัย ไม่กั๊กสำหรับใช้ในเวอร์ชันจ่ายตังค์เหมือนค่ายอื่นๆ
Avast Home Edition http://www.avast.com/eng/download-avast-home.htmlโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ได้รับการรับรองจาก ICSA Lab และ Checkmark แม้ว่าหน้าตาอินเทอร์เฟซจะแปลกๆ คล้ายโปรแกรม Winamp แต่ก็ดูทันสมัยดี สามารถตรวจสอบอีเมล์ เน็ตเวิร์ก ไฟล์แบบ P2P และมีไฟร์วอลล์เล็กๆ แถมมาให้ด้วย
AVG Anti-Virus Free Edition http://www.download.com/AVG-Anti-Virus-Free-Edition/3000-2239_4-10320142.html?tag=lst-01 โปรแกรมป้องกันไวรัสที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยยอดดาวน์โหลดใน download.com สูงถึง 61 ล้านครั้ง และได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ มากมาย ด้วยโปรแกรมที่มีขนาดเล็กติดตั้งง่าย ใช้งานไม่ยาก ทำงานได้เร็ว การอัพเดตข้อมูลไวรัสก็รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดี จึงไม่น่าแปลกใจที่โปรแกรมนี้จะได้รับความนิยมมากขนาดนี้
ข้อมูลจาก : www.bcoms.net/tipcomputer/index.asp

ระบบ 3G คืออะไร เทคโนโลยี 3G หมายถึง? ความเร็ว 3G เท่าไหร่?

ระบบ 3G คืออะไร เทคโนโลยี 3G หมายถึง? ความเร็ว 3G เท่าไหร่?
เทคโนโลยี 3G พัฒนามาจากอะไร ระบบ 3G คืออะไร และมี ความเร็ว เท่าไรระบบ 3G ( UMTS ) นั้นคือการนำเอาข้อดีของ ระบบ CDMA มาปรับใช้กับ GSM เรียกว่า W-CDMA ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท NTT DoCoMo ของญี่ปุ่นสำหรับเมืองไทยนั้น ระบบ 3G จะเป็น เทคโนโลยีแบบ HSPA ซึ่งแยกย่อยได้เป็น HSDPA , HSUPA และ HSPA+
HSDPA นั้นจะสามารถ รับส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ Download 14.4 Mbps / Upload 384 Kbps. ( ปัจจุบันผู้ให้บริการทั่วโลกยังให้บริการอยู่ที่ Download 7.2Mbps เท่านั้น )
HSUPA จะเหมือนกับ HSDPA ทุกอย่างแต่การ Upload ข้อมูลจะวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 5.76 Mbps
HSPA+ เป็นระบบในอนาคต การ Download ข้อมูลจะอยู่ที่ 42 Mbps / Upload 22 Mbps
สำหรับในเมืองไทยนั้น ระบบ 3G ( HSPA ) ที่ Operator AIS หรือ DTAC นำมาใช้จะเป็น HSDPA โดยการ Download จะอยู่ที่ 7.2Mbps ซึ่งน่าจะได้ใช้กันในไม่ช้า
ข้อควรระวังในการเลือกซื้อ AirCard แบบที่รองรับ 3G คลื่นความถี่ 3G ที่ใช้กันทั่วโลก จะใช้อยู่ 3 ความถี่ที่เป็นมาตราฐานคือ 850 , 1900 และ 2100 ซึ่งเมืองไทยจะแบ่งเป็นดังนี้คลื่นความถี่
( band ) 850 จะถูกพัฒนาโดย Dtac และ Trueคลื่นความถี่
( band ) 2100 จะถูกพัฒนาโดย AISคลื่นความถี่
( band ) 1900 ยังไม่แน่ชัดว่าจะถูกปล่อยออกโดยบริษัทไหน
ดังนั้นการเลือกซื้อ AirCard , Router หรือ โทรศัพท์มือถือ และต้องการให้รอบรับ 3G ควร check ให้ดีก่อนว่าสามารถรองรับได้ทั้ง 3 คลื่นหรือเพียงบางคลื่นเท่านั้น
ข้อมูลจาก : www.bcoms.net/tipcomputer/index.asp

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

BLOG คืออะไร

บล็อก (BLOG)
บล็อก (blog) เป็นคำรวมมาจากคำว่า เว็บล็อก (weblog) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ประเภทหนึ่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นในลำดับที่เรียงตามเวลาในการเขียน ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้แรกสุด บล็อกโดยปกติจะประกอบด้วย ข้อความ ภาพ ลิงก์ ซึ่งบางครั้งจะรวมสื่อต่างๆ ไม่ว่า เพลง หรือวิดีโอในหลายรูปแบบได้ จุดที่แตกต่างของบล็อกกับเว็บไซต์โดยปกติคือ บล็อกจะเปิดให้ผู้เข้ามาอ่านข้อมูล สามารถแสดงความคิดเห็นต่อท้ายข้อความที่เจ้าของบล็อกเป็นคนเขียน ซึ่งทำให้ผู้เขียนสามารถได้ผลตอบกลับโดยทันที คำว่า "บล็อก" ยังใช้เป็นคำกริยาได้ซึ่งหมายถึง การเขียนบล็อก และนอกจากนี้ผู้ที่เขียนบล็อกเป็นอาชีพก็จะถูกเรียกว่า "บล็อกเกอร์"
บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่า
ไดอารีออนไลน์ ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทำบล็อกของทางบริษัทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ใหักับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์


ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%81